วันที่: 2012-05-05 18:37:47.0
สวัสดี ค่ะ วันนี้จะมาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโปรตีนแห่งความงามที่มีชื่อเรียก ว่า “คอลลาเจน” คงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว แต่อาจจะยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรต่อมนุษย์เรา คอลลาเจนคือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่อยู่ใต้ผิวหนังซึ่งอยู่ในชั้นหนังแท้ เป็นโปรตีนสำคัญของผิวหนังเพราะเป็นส่วนสปริงที่มีหน้าที่ในการสร้างความตึง ให้กับผิวหนังชั้นหนังแท้ ซึ่งท่านสามารถสัมผัสกับความตึงของคอลลาเจนได้โดยลองจับแก้มเด็กตัวเล็กๆ ท่านจะสัมผัสได้ทันทีถึงความสดใสเต่งตึงที่ผิวแก้ม หรือเด็กวัยรุ่นที่กำลังแตกเนื้อหนุ่มสาว ท่านจะเห็นว่าผิวพรรณสดใส เต่งตึงทีเดียว ในปัจจุบันนี้ได้มีการพูดถึงคอลลาเจนกันอย่างกว้างขวางในวงการเครื่องสำอาง และความงาม
ต่อไปนี้เรามาทราบถึงความหมายของคอลลาเจนกันก่อนนะคะ “คอลลาเจน” เป็นภาษากรีก แปลว่า กาว ทำหน้าที่เป็นกาวเชื่อมเซลล์แต่ละเซลล์เข้าด้วยกัน ซึ่งมีปริมาณมากถึง 1 ใน 3 ของโปรตีนในร่างกาย คอลลาเจนนี้จะทำหน้าที่เสริมความเรียบตึงของผิวหนัง ทำให้ผิวแข็งแรงและเรียบเนียน เต่งตึง ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ลดการเกิดริ้วรอย และจุดด่างดำต่างๆ จะอยู่คู่กับโปรตีนที่สำคัญอีกชนิดหนึ่ง คือ “อิลาสติน”ในขณะที่คอลลาเจนมีหน้าที่เสมือนโครงสร้างของผิว และทำให้ผิวเต่งตึง ส่วนอิลาสติน จะมีหน้าที่สร้างความยืดหยุ่นให้กับผิว ซึ่งทำให้ผิวไม่มีริ้วรอยและเรียบเนียน แต่เมื่อภายหลังอายุ 25 ปีขึ้นไป ร่างกายจะลดการสังเคราะห์คอลลาเจน โดยจะลดลงร้อยละ 1 ในทุกๆ ปี และจะหยุดผลิตคอลลาเจนเมื่ออายุ 45 ปี
เมื่อคอลลาเจนเสื่อมสภาพลง ร่างกายมีคอลลาเจนไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงทำให้ชั้นผิวหนังมีการยุบตัวลงซึ่งเป็นต้นเหตุของความเหี่่ยวย่น ของผิวหนัง ทำให้เกิดเป็นริ้วรอยตามส่วนต่างๆ และความชราของผิวพรรณ ริ้วรอยจะเป็นรอยตีนกา เพราะผิวหนังรอบดวงตามีความบอบบางมาก อีกทั้งกล้ามเนื้อรอบดวงตาก็เป็นกล้ามเนื้อวงกลมไม่มีอะไรยึด ผิวรอบดวงตาจึงเหี่ยวย่นง่ายกว่าที่อื่น
การรับประทานคอลลาเจนจะช่วยชะลอความเหี่ยวย่นและช่วยลดริ้วรอยที่เกิดขึ้นได้ คอลลาเจนมีคุณสมบัติทำให้กล้ามเนื้อกระชับไม่หย่อนยาน ผิวหนังไม่เหี่่ยวย่น อีกทั้งยังบำรุงเล็บและเส้นผมให้มีสุขภาพดีอีกด้วย
ข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า ปัจจัยที่ก่อให้เกิดการสลายตัวของคอลลาเจน คือ อนุมูลอิสระที่เกิดจากการสูบบุหรี่ หรือการได้รับควันบุหรี่ แสงแดด มลพิษต่างๆ สารปนเปื้อนในอาหารที่รับประทานเข้าไป และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ส่งผลต่อผิวหนังในชั้นหนังกำพร้า และชั้นหนังแท้ที่ประกอบด้วยเนื้อเยื่อ 2 ชนิด คือ คอลลาเจน และอิลาสติน ที่มีบทบาทสำคัญในการทำให้ผิวพรรณเต่งตึง มีความยืดหยุ่น และควบคุมความชุ่มชื้นเมื่อถูกทำลายให้ลดลง และด้วยอายุที่มากขึ้นทำให้เกิดความไม่สมดุลระหว่างการผลิตและการสลายตัวของ คอลลาเจนตามธรรมชาติ ส่งผลให้เกิดริ้วรอย ผิวหน้าหย่อนคล้อย และหยาบกระด้าง
ดังนั้นวิธีที่จะทำให้ผิวพรรณกลับคืนสู่ความวัยเยาว์นั้นก็คือการเพิ่มคอลลา เจนให้กับผิวพรรณ ซึ่งจะเป็นกุญแจที่นำไปสู่ความอ่อนเยาว์ตลอดเวลา ท่านผู้ฟังจะสามารถเพิ่มคอลลาเจนได้ง่ายๆ ด้วยวิธีการ ดังต่อไปนี้
1. การเพิ่มคอลลาเจนและอิลาสตินที่ขาดหายไปจากเซลล์ผิว
โดยการรับประทานอาหารที่ต่อต้านอนุมูลอิสระปัจจุบันมีการค้นคว้าเพื่อหา แหล่งธรรมชาติที่จะช่วยเสริมคอลลาเจนที่ขาดหายไป เพราะผิวหนังที่มีคอลลาเจนที่แข็งแรงจะเป็นผิวหนังที่เปล่งปลั่ง เนียนใส คอลลาเจน จึงเป็นหัวใจสำคัญที่คงความยืดหยุ่น และช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นไว้ไม่ให้สูญเสียไปกับสภาพแวดล้อม สารต่อต้านอนุมูลอิสระที่เกิดจากธรรมชาติจะช่วยกำจัดการสร้างอนุมูลอิสระให้ หมดไปและไม่ทำลายเซลล์ผิวหนัง ซึ่งได้แก่ เบต้าแคโรทีน วิตามินซี วิตามินอี สารเหล่านี้เป็นสารที่มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติสร้างความแข็งแรงของเนื้อเยื่อคอลลาเจน และอิลาสติน
ปัจจุบันจึงมีการนำสารสกัดโปรตีนจากปลาทะเลบางประเภท ซึ่งมีโครงสร้างโมเลกุลคล้ายกับโครงสร้างของคอลลาเจนของผิวมนุษย์ มาทำเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งพบว่าหลังจากรับประทานไปได้ระยะหนึ่งและอย่างต่อเนื่องจะสามารถช่วย เสริมสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ช่วยให้ริ้วรอยต่างๆ จางหาย และทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น นุ่มเนียนขึ้น เนื่องจากคอลลาเจนจากปลาทะเล เป็นโปรตีนคุณภาพสูงและให้กรดอะมิโนครบถ้วน ซึ่งเป็นสารที่จะกลายเป็นโครงสร้างหลักของผิว เส้นผม เล็บ กระดูก และข้อต่อ หรือแม้แต่ผนังหลอดเลือด
สำหรับวิธีการที่จะนำสารสกัดโปรตีนคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายทำได้ 2 วิธี คือ การรับประทานในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และการฉีดเข้าใต้ผิวหนังชั้นหนังแท้ ซึ่งจะเห็นว่าวิธีรับประทานเป็นวิธีที่สะดวกกว่า นอกจากนี้คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่มีโครงสร้างโมเลกุลใหญ่มาก จึงไม่สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ด้วยการทา อย่างไรก็ตามครีมต่างๆ ที่มีขายตามท้องตลาดที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน จะเป็นการเติมคอลลาเจนให้อยู่บริเวณชั้นผิวหนังกำพร้า เนื่องจากคอลลาเจนมีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ประมาณ 30 เท่าของน้ำหนักตัวมันจึงทำให้ผิวหนังกำพร้าชุ่มชื้นขึ้น แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยได้อย่างแท้จริง เพราะการเสริมสร้างคอลลาเจนนั้นจะต้องเข้าสู่ผิวหนังได้ด้วยการรับประทานและ การฉีดเข้าใต้ผิวหนังเท่านั้น
2. การรักษาความชุ่มชื้นไว้กับเซลล์ผิว และการปกป้องผิวจากแสงแดดการสูญเสียความชุ่มชื้นจากเซลล์ผิวทำให้เกิดความ หยาบกร้านและริ้วรอย ควรเลือกใช้ครีมชนิดพิเศษที่ให้ความชุ่มชื้นและมีประสิทธิภาพมากกว่าครีม ทั่วไป ซึ่งสังเกตได้จากส่วนผสมที่มีส่วนประกอบประเภท ไฮโดรไลซ์ อิลาสติน เอเอชเอ โปรคอลลาเจน และโซเดียม พีซีเอ เป็นต้น
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์บางสูตรที่นำสารเหล่านี้มารวมกันซึ่งน่าจะเป็นตัวเลือก ที่น่าสนใจมาก บางท่านอาจใช้วิธีรับประทานตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เช่น น้ำมันจากดอกอิฟนิ่งพริมโรส หรือวิตามินอีที่ได้จากแหล่งธรรมชาติจากจมูกข้าวสาลี การใช้ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันแสงแดด ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกมากมาย และควรสังเกตว่ามีส่วนผสมของสารบางชนิดที่ช่วยสะท้อนกลับรังสีได้ดีหรือไม่ และบางผลิตภัณฑ์อาจมีการผสมกับน้ำมันจากดอกอิฟนิ่งพริมโรสก็ช่วยบำรุงให้ผิว ขาวสดใสเพิ่มขึ้น
สรุปว่าประโยชน์ของคอลลาเจนถ้าหากท่านรับประทานอย่างต่อเนื่อง จะทำให้สุขภาพผิวของท่านแข็งแรงและมีความยืดหยุ่นดี ช่วยลดริ้วรอยเ**่ยวย่น ทำให้ผิวพรรณกระชับ เนียนใส เปล่งปลั่ง ช่วยเผาผลาญไขมัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนอนหลับ เพิ่มความกระฉับกระเฉง เสริมสร้างกล้ามเนื้อ บำรุงข้อต่อ และ กระดูก ในผู้ที่มีน้ำหนักตัวน้อยเกินไป คอลลาเจนจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และมีประโยชน์ต่อผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น ผู้ที่เป็นโรคปวดข้อ ผู้ที่มีคอเลสเตอรอลสูง ผู้ป่วยโรคเบาหวาน และผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยเหล่านี้มีสุขภาพดีขึ้น
เอกสารอ้างอิง
1. คงศักดิ์ ตั้งตระกูลชัย . 2547 . คอลลาเจน . (วันที่ค้นข้อมูล 14 ธ.ค. 50) เข้าถึงได้จาก http://www.herbiothailand.com/collagen.htm
2. พันธุ์ธัช จันทร์เจริญสุข. 2550 . คอลลาเจนคืออะไร . (วันที่ค้นข้อมูล 19 ธ.ค. 50) เข้าถึงได้จาก http://collagenaplus.igetweb.com/index.php?mo=24
3. Gohr CM, Fahey M, Rosenthal AK. 2007. Calcific tendonitis :a model. Connect Tissue Res. 48(6):286-91
4. Negri S, Fila C, Farinato S, Bellomi A, Pagliaro PP. 2007. Tissue engineering: chondrocyte culture on type 1 collagen support. Cytohistological and immunohistochemical study. J Tissue Eng Regen Med. 1(2):158-9.
|
|
|